คำตอบ คือ สามารถทำได้ทั้ง 2 อย่าง!!
ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล สามารถเทคฮอร์โมนเพศชายก่อนตัดหน้าอกได้ เนื่องจากจะทำให้รูปลักษณ์เปลี่ยนไปให้เป็นชายมากขึ้นหลังเทคฮอร์โมนเพศชาย เช่น มีเสียงทุ้มต่ำลง, มีหนวดเครา หรือ โครงหน้าดูบึกบึนดูแมนขึ้น แต่การใช้ฮอร์โมนเพศชายไม่มีผลทำให้ขนาดหน้าอกเราเล็กลง
หรือจะเลือกตัดหน้าอกก่อนที่จะเทคฮอร์โมนเพื่อนำเนื้อหน้าอกออกไปก่อนที่จะเทคฮอร์โมนก็สามารถทำได้ หรือ หากต้องการที่จะตัดหน้าอกเพียงอย่างเดียวแต่ไม่อยากเทคฮอร์โมน เพราะกังวลเรื่องผลข้างเคียงหลังได้รับฮอร์โมนเพศชาย เช่น ผิวมัน เป็นสิว ผมร่วง ศีรษะล้าน หรือผลข้างเคียงทางสุขภาพ อย่าง ภาวะเลือดข้นหนืด หรือ ภาวะคอเลสเตอรอลสูง ก็สามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้เลย
การเทคฮอร์โมนเพศ หรือการรับฮอร์โมนเพศ หรือการใช้ฮอร์โมนบำบัดเพื่อการข้ามเพศ เป็นหนึ่งในวิธีแปลงเพศที่ไม่ต้องเจ็บตัว ก็สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงสรีระไปตามฮอร์โมนเพศที่ได้รับได้ หลังเทคฮอร์โมนเพศอย่างถูกวิธีต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป
การเทคฮอร์โมนเพศชาย จะใช้ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) หรือ โทสเธอโรน (Testosterrone) เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทั้งการลดทอน หรือกำจัดแหล่งผลิตฮอร์โมนเพศที่มีอยู่เดิม และกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของสรีระ
ปัจจุบันมีหลายรูปแบบ ได้แก่ แบบฉีด แบบรับประทาน แบบทา และแบบพลาสเตอร์ แต่ละแบบจะมีความแตกต่างในความสะดวกในการใช้งาน และระยะเวลาการออกฤทธิ์แตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม การตอบสนองของร่างกายต่อฮอร์โมนเพศชายนั้นมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล แต่ละเชื้อชาติ และแต่ละพันธุกรรม
เรื่องสำคัญที่ควรรู้ของคนข้ามเพศ ก่อนเริ่มเปลี่ยนตัวเองด้วยการเทคฮอร์โมน
อยากเทคฮอร์โมนต้อง…
● ต้อง..อายุมากกว่า 20 ปี
● ต้อง…มีผู้ปกครองเซ็นยินยอม หากอายุไม่ถึง 20 ปี
● ต้อง…ผ่านการตรวจสุขภาพ ความพร้อมของร่างกายและจิตใจก่อน
ฮอร์โมนเพศชายเพื่อการข้ามเพศ รูปแบบยาฉีด จะออกฤทธิ์เร็วกว่าแบบรับประทานและออกฤทธิ์ได้นาน โดยผ่านเข้าสู่กระแสเลือดและออกฤทธิ์ได้โดยตรง ทำให้ระดับยาในเลือดค่อนข้างสม่ำเสมอ
สำหรับชายข้ามเพศ หรือ ทรานส์แมน (Transman)
การรับฮอร์โมนเพศชาย ได้แก่ ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) หรือเทสโทสเทอโรน (Testosterone) จะทำให้ร่างกายปรับตามไปด้วย เช่น ทำให้ประจำเดือนลดน้อยลง มีขนขึ้นตามใบหน้าและร่างกายมากขึ้น เสียงทุ้มขึ้น กล้ามเนื้อขยายและแข็งแรงมากขึ้น โครงหน้าเปลี่ยน ผิวมันและหยาบขึ้น เป็นต้น
● Testosterone ชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ทุก 2 สัปดาห์
🔹 ข้อดี : ราคาไม่สูง ปรับขนาดยาง่าย นิยมมากในไทย
🔸 ข้อจำกัด : ระดับยาในเลือดขึ้น-ลง ตามช่วงเริ่มต้น และช่วงปลายก่อนจะฉีดเข็มใหม่ บางรายมีผลข้างเคียงตามการเปลี่ยนแปลงของระดับยา
● Testosterone ชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ทุก 3 เดือน
🔹 ข้อดี : ระดับยาในเลือดค่อนข้างคงที่ ไม่ต้องมาฉีดยาบ่อย
🔸 ข้อจำกัด : ราคาสูงกว่า เจ็บบริเวณที่ฉีดเนื่องจากปริมาตรยาเยอะกว่า
การเทคฮอร์โมนจะต้องใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน การใช้ยาที่เหมาะสมกับแต่ละคนจึงต่างกัน แต่มีคนจำนวนไม่น้อยใช้โดยไม่ปรึกษาแพทย์จึงทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา