หลังจากข่าวที่นักร้องสาวชาวเวียดนามประสบเหตุซิลิโคนที่เสริมหน้าอกเกิดระเบิดขณะโดยสารเครื่องบิน ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดและเกิดการอักเสบอย่างรุนแรง และต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน เนื่องจากซิลิโคนที่เสริมไว้เมื่อ 7 ปีที่แล้วเกิดแตก เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามมากมายในโลกโซเชียลเกี่ยวกับมาตรฐานของซิลิโคนที่ถูกนำมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับความปลอดภัยของซิลิโคนเมื่อมีการเดินทางด้วยเครื่องบิน ซึ่งเรื่องนี้สร้างความกังวลใจให้กับสาว ๆ ที่มีความสนใจอยากทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกเป็นอย่างมาก ว่าหลังจากที่ เสริมหน้าอก ขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ ? จะเป็นอันตรายจริงไหม? และถ้าหากขึ้นเครื่องบินต้องเตรียมตัวอย่างไร? การมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้จะช่วยให้ผู้ที่สนใจเสริมหน้าอกมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น และสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น และสำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้อยู่ บทความนี้ทางเราได้รวบรวมคำตอบทั้งหมดมาไว้ให้ทุกท่านแล้วค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!
เสริมหน้าอก ขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ หากจะขึ้นเครื่องบินหลังเสริมหน้าอก ต้องทำอย่างไรบ้าง?
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอกสามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้ แต่สิ่งสำคัญคือควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดก่อนการเดินทาง แพทย์จะประเมินสภาพร่างกายของผู้ป่วยและให้คำแนะนำที่เหมาะสมในแต่ละกรณี การเดินทางทันทีหลังการผ่าตัดอาจไม่เหมาะสม เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น การบวม หรือเลือดคั่ง โดยเฉพาะหากเป็นการเดินทางที่ใช้เวลานาน
การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากแพทย์อนุญาตให้เดินทางได้ สาว ๆ ควรเตรียมเอกสารรับรองทางการแพทย์ที่ยืนยันว่าตนเองสามารถเดินทางได้โดยไม่มีปัญหา การมีเอกสารรับรองนี้สำคัญสำหรับการขึ้นเครื่องบิน เพราะบางครั้งสายการบินอาจต้องการความมั่นใจในสุขภาพของผู้โดยสารที่เพิ่งผ่านการผ่าตัด นอกจากนี้ การเดินทางหลังผ่าตัดควรมีการเตรียมตัวที่ดี เช่น การเลือกที่นั่งที่สามารถเคลื่อนไหวสะดวก และพยายามหลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือทำกิจกรรมที่อาจกดดันบริเวณที่ผ่าตัด
ขึ้นเครื่องบินจะทำให้ซิลิโคนแตกหรือระเบิดได้จริงหรือไม่?
เนื่องด้วยไม่นานมานี้ได้มีข่าวเกี่ยวกับน้องร้องสาวชาวเวียดนามเกิดเหตุซิลิโคนแตกในขณะที่เธอโดยสารทางเครื่องบิน ซึ่งแพทย์ได้วินิจฉัยพบว่า ซิลิโคนที่เธอได้เสริมหน้าอกมาเมื่อ 7 ปีที่แล้วแตก ทำให้เธอต้องผ่าตัดโดยด่วน และจากเหตุการณ์นี้ส่งผลทำให้สาว ๆ ส่วนใหญ่ที่มีความสนใจหรือได้ทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกไปแล้วมีความกังวลใจและสงสัยกันว่า “ทำศัลยกรรม เสริมหน้าอก ขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ ? หากขึ้นเครื่องบินจะทำให้ซิลิโคนแตกจริงไหม?”
โดยปกติแล้ว ถุงซิลิโคนเต้านมที่ได้รับมาตรฐานทางการแพทย์มักจะมีความทนทานต่อแรงบีบและแรงดันได้สูงมาก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเสริมหน้าอก เนื่องจากผู้ที่มีถุงซิลิโคนอาจมีความกังวลเกี่ยวกับการเดินทางโดยเครื่องบิน โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในระดับความสูงประมาณ 35,000 ฟุต ภายในเครื่องบินจะมีการปรับแรงดันให้อยู่ที่ประมาณ 11-12 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) ซึ่งถือว่าน้อยมาก โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับความดันที่ถุงซิลิโคนสามารถทนได้ ซึ่งจากการวิจัยพบว่า ความดันภายในเครื่องบินต่ำกว่าความดันที่ทำให้ถุงซิลิโคนแตกได้ถึง 10-15 เท่า ทำให้เป็นไปได้ยากมากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่ถุงซิลิโคนจะเกิดการแตกหรือรั่วซึมจากการขึ้นเครื่องบินนั่นเอง
ดังนั้น สาว ๆ ที่ทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกสามารถขึ้นเครื่องบินได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมหน้าอก แต่อย่างไรก็ตาม สาว ๆ สามารถขอคำแนะนำหรือปรึกษาแพทย์ก่อนการเดินทางเพื่อความมั่นใจ ว่า เสริมหน้าอก ขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ ซึ่งแพทย์จะแนะนำแนวทางให้กับสาว ๆ พร้อมทั้งตรวจสอบสภาพร่างกายอย่างครบถ้วน เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางนั่นเอง
เพิ่งผ่าตัดเสริมหน้าอกมา หากต้องการขึ้นเครื่องบินควรเตรียมตัวอย่างไร?
สำหรับสาว ๆ ที่มีความกังวลใจว่า หลังจากผ่าตัด เสริมหน้าอก ขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ ? และถ้าหากต้องขึ้นเครื่องบิน ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง? สำหรับสาว ๆ ที่มีความจำเป็นต้องขึ้นเครื่องบินหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก สาว ๆ ควรเตรียมความพร้อมให้ดีและควรเดินทางอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนการเดินทาง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อห้ามในการขึ้นเครื่องบินแต่อย่างใด และในระหว่างการเดินทางควรสวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย ไม่รัดแน่นเกินไป และควรหลีกเลี่ยงการยกของหนักที่อาจทำให้เกิดแรงกดบนหน้าอก ในขณะเดินทาง ควรสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ เช่น อาการปวดที่รุนแรงขึ้น อาการบวมที่ผิดปกติ อาการเลือดออกบริเวณแผล หรืออาจเป็นไข้ในระหว่างการเดินทาง ซึ่งถ้าหากสาว ๆ พบอาการต่าง ๆ เหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีหลังจากที่ลงจากเครื่องบิน การดูแลตัวเองให้ดีระหว่างเดินทางเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจตามมาได้ในที่สุด
มาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่อาจส่งผลทำให้ซิลิโคนแตกหรือมีลักษณะรั่วซึม?
วัสดุซิลิโคนที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีขึ้นทั้งในเรื่องของความทนทานและความปลอดภัย โอกาสที่จะเกิดการรั่ว ซึม หรือแตกของซิลิโคนรุ่นใหม่นั้นน้อยมาก โดยทั่วไป ซิลิโคนที่มีคุณภาพมักจะมาพร้อมกับการรับประกันตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่อาจทำให้เกิดปัญหา เช่น การแตกหรือรั่วของซิลิโคนก็ยังคงมีอยู่และจำเป็นต้องระมัดระวัง เรามาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่อาจส่งผลทำให้ซิลิโคนแตกหรือรั่วซึมได้ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- คุณภาพของซิลิโคน
ซิลิโคนที่ได้มาตรฐานจะมีคุณภาพสูงและลดโอกาสการเกิดปัญหาเหล่านี้
- ความหนาของตัวหุ้ม (Shell)
ตัวหุ้มซิลิโคนที่มีความหนาเพียงพอเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการป้องกันการแตกหรือรั่ว ยกตัวอย่างเช่น ซิลิโคนที่ใช้เสริมก้นหรือสะโพกจะมี Shell ที่หนากว่าซิลิโคนเสริมหน้าอก เนื่องจากต้องรองรับแรงกดทับที่มากกว่า เช่น การนั่งหรือทำกิจวัตรประจำวัน
- ระยะเวลาในการใช้งาน
แม้ว่าบริษัทผู้ผลิตอย่าง Mentor และ Natrelle จะรับประกันคุณภาพซิลิโคนตลอดชีวิต แต่วัสดุทุกชนิดก็ยังมีโอกาสเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ซิลิโคนคุณภาพดีอาจมีโอกาสรั่วหรือแตกน้อยมาก (น้อยกว่า 0.5-1%) แต่การดูแลรักษาอย่างถูกต้องและการตรวจเช็คสุขภาพอย่างสม่ำเสมอก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย
หากซิลิโคนแตกหรือรั่วซึม จะสามารถสังเกตได้อย่างไรบ้าง?
หากคุณเคยเสริมหน้าอกและมีอาการผิดปกติต่อไปนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจสอบว่าอาจเกิดการแตกหรือรั่วซึมของซิลิโคนหรือไม่
- หน้าอกมีรูปทรงผิดไปจากเดิม
- รู้สึกปวดหรือแสบบริเวณหน้าอก
- หน้าอกมีขนาดเล็กลงอย่างฉับพลัน
- หน้าอกแข็งตัวผิดปกติ
- ในบางกรณีแต่ละคนอาจจะไม่มีอาการใดๆ เลย (เรียกว่า “Silence Rupture”)
หากพบว่าซิลิโคนแตกหรือรั่วซึม อย่าเพิ่งตื่นตระหนก เนื่องจากทางการแพทย์ได้ระบุว่าวัสดุซิลิโคนที่แตกหรือรั่วซึมไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย การรักษานั้นสามารถทำได้โดยการผ่าตัดนำซิลิโคนเก่าออก ล้างเนื้อเยื่อบริเวณที่สัมผัสกับซิลิโคนให้สะอาด รวมถึงการเลาะพังผืดออก (Capsulectomy) เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน จากนั้นจึงใส่ซิลิโคนใหม่ทดแทน การตรวจสอบสุขภาพของซิลิโคนเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะหากมีอาการที่เข้าข่าย การตรวจเช็คเป็นประจำจะช่วยให้คุณมั่นใจในสุขภาพหน้าอกของคุณมากขึ้น และยังช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดปัญหาตามมาในอนาคต
และสำหรับท่านใดที่กำลังสนใจอยากจะทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพ วันนี้ Absolute Beauty Clinic ทองหล่อ ศูนย์ศัลยกรรมความงามอันดับต้น ๆ ของไทย ที่ได้ยกระดับศัลยกรรมความงามกับเทคโนโลยีผ่าตัดด้วยเลเซอร์ ความสวยที่ออกแบบได้ โดย คุณหมอชาติชาย พฤกษาพงษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการศัลยกรรมหน้าอกซึ่งมีผลงานมากกว่า 100000 เคสด้วยกัน อีกทั้งยังมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ พร้อมให้บริการดูแลใส่ใจทุกขั้นตอน เพื่อความสะดวก สบาย และความเป็นส่วนตัวของคนไข้ คลินิกตั้งอยู่ใจกลางกรุงใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ การเดินทางง่าย สะดวกสบายอย่างแน่นอน พร้อมเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 20.00 น. หากท่านใดสนใจสามารถติดต่อเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Absolute Beauty Clinic ทองหล่อ (ศูนย์ศัลยกรรม)
- เบอร์โทรศัพท์ : 089 655 5516
- Line OA : @absoluteofficial
- Facebook : AbsoluteBeauty Clinic